หลักการง่าย ๆ ของการทำธุรกิจเครือข่าย ก็คือ การแนะนำให้ผู้อื่นสมัครเป็นสมาชิกภายใต้สายงานของคุณ แต่สิ่งที่ธุรกิจนี้ทำให้ผู้คนต้องเบือนหน้าหนีก็คือ "การต้องเสนอขายสินค้า" ทั้งที่จริง "การเสนอขายสินค้า" มันก็มีในทุกธุรกิจ เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ทำการซื้อ การขาย ของใช้ในชีวิตประจำวันกันเป็นปกติ เพราะการขายสินค้า จะทำให้เกิดกำไรมาหมุนเวียนในวงจรธุรกิจ สำหรับธุรกิจเครือข่าย เงินที่ได้จากการขายสินค้า ก็คือ เงินกำไรที่จ่ายเป็นค่าตอบแทนให้คุณ (ซึ่งเป็นตัวแทนขาย) เงินที่เหลือก็นำมาจ่ายเป็นค่าต้นทุนการผลิตและดำเนินการของผู้ผลิตสินค้าต่อไป หมุนเวียนกันอย่างนี้ ตราบเท่าที่ธุรกิจนั้นยังคงอยู่ได้ ในสังคมไทยปัจจุบัน เมื่อผู้คนได้ยินคำว่า "ธุรกิจเครือข่าย" เขาเหล่านั้นจะมีภาพในใจผุดขึ้นมาทันที นั่นคือ
• ต้องไปนั่งพูดเสนอขายสินค้าให้คนรอบข้าง แล้วที่สุดก็ต้องถูกปฏิเสธ
• ต้องสละเวลาพักผ่อนหลังเลิกงาน ไปนั่งฟังการประชุมจนดึกดื่้น
• ต้องโทรจิก โทรตามคนมาเป็นสมาชิก
• เมื่อจะเริ่มต้นเป็นสมาชิก ต้องจ่ายเงินซื้อของที่แพงมาตุนไว้
ภาพในใจเหล่านี้ นี่เอง ที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่น่าอับอาย กระอักกระอ่วนในใจ เมื่อกำลังถูกชวนให้สมัครสมาชิกทำธุรกิจเครือข่าย .. แต่ที่สุดนะครับ "การขายสินค้า" ก็ยังคงต้องมีอยู่ต่อไปในทุกธุรกิจ เพราะ "ถ้าปราศจากการขาย .. ก็ปราศจากเงินหมุนเข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจนั่นเองครับ"แล้วเราจะทำอย่างไรหละครับพี่น้อง หากต้องการมีรายได้ โดยปราศจากการขายสินค้า ?
เลิกขายสินค้ากันเสียที
"เลิกขายสินค้าให้คนอื่นสิครับ" นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเลยครับ .. แล้วจะขายให้ใครหละ ? ก็เปลี่ยนมาขายให้ 'ตัวคุณเอง' ไงครับ ด้วยการเปลี่ยนแหล่งซื้อสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น บิ๊กซี , คาร์ฟูร์ , แมคโคร , โลตัส , เซเว่น , ทอปมาร์เกต , ร้านโชว์ห่วย ฯลฯ มาเป็นสั่งซื้อจากแคตตาลอคของกิฟฟารีนแทน .. เท่านั้น
เปลี่ยนมาซื้อใช้สินค้ากิฟฟารีนแค่บางตัว ย้ำ แค่บางตัวนะครับ
ผมแนะนำให้คุณ เริ่มเปรียบเทียบ 4 อย่าง ก็คือ
• ปริมาณ
• ราคา
• คุณภาพ
• ผลตอบแทน
3 ตัวแรกก็เปรียบเทียบได้อยู่แล้วไม่ยาก แต่ตัวสุดท้าย คือ "ผลตอบแทน" ครับ ถ้าหากคุณซื้อสินค้าจากห้างดิสเคาน์ (โลตัส/บิ๊กซี/คาร์ฟูร์ ฯลฯ) หรือ จากมินิมาร์ททั่วไป คุณไม่มีทางได้รับ "ผลตอบแทน" อย่างแน่นอน ครับ หลักการนี้ก็เหมือน "ร้านค้าสหกรณ์" ครับ , ต่างกันที่ว่า ร้านค้าสหกรณ์นำสินค้าจากผู้ผลิตหลายยี่ห้อมาจำหน่าย แล้วเอาเงินกำไรมาแบ่งกัน ใครซื้อมากก็ได้เงินปันผลมาก แต่ทว่า "กิฟฟารีน" ให้เหนือกว่าร้านค้าสหกรณ์ คือ คุณซื้อใช้ส่วนตัวมากคุณได้มาก และสมาชิกทั้งหมดที่อยู่ภายใต้สายงานของคุณซื้อใช้ส่วนตัวเท่าไหร่ เอายอดมารวมเป็นของคุณและจ่ายให้คุณด้วย เจ๋งไหมครับ ผมบอกแล้ว่า เจ๋ง .. เชื่อสิ
แล้วจะซื้ออะไรในกิฟฟารีนหละ สินค้าตัวไหนดี
ครับ , เมื่อคุณเป็นสมาชิกกิฟฟารีนแล้ว ให้คุณเลือกเปลี่ยนสินค้าในชีวิตประจำวันสัก 2 อย่าง จากยี่ห้อในท้องตลาด มาเป็นยี่ห้อกิฟฟารีน .. ฮั่นแน่ อย่ามาแอบคิดนะครับว่า " ฟายย ..ยย แล้วงี้ กิฟฟารีนก็รวยตายสิ หลอกให้ (ตรู) ซื้อสินค้านี่หว่า" คิดอย่างนี้ เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย .. ให้ตายเถอะ โถ .. พ่อคู๊ณ แม่คู๊ณ .. ใครมันจะมาชวนหลอกซื้อสินค้ากันได้เป็น 20 กว่าปี ทำไปเพื่ออะไรหละครับ สินค้ากิฟฟารีนไม่ใช่หลักหมื่น .. หลักแสนทุกตัว 'หลอกขายกันแบบนี้มันไม่รวยหรอก ' ใครจะหลอกคนไทยมาได้ 20 กว่าปีหละ .. คุณเอ๊ย
"สินค้ากิฟฟารีน"ใช้แล้ว ไม่ดี ไม่ได้ความพอใจ .. กิฟฟารีน เค้าให้คืนสินค้าและเอาเงินคืนจากเค้าได้ครับ หากสินค้าไม่มีคุณภาพ กิฟฟารีนมันเจ๊งไปตั้งแต่นานแล้วหละครับไม่อยู่จนถึงวันนี้ หรอกครับ ตรงกันข้าม 'เวลาพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน' มันมีแต่คนติดใจสินค้ากิฟฟารีนครับ ใช้แล้วดี ผู้คนก็เปลี่ยนสินค้าจากยี่ห้อตลาด มาเลือกใช้สินค้ากิฟฟารีนทดแทนกันทั้งนั้นหละครับ เพราะหัวใจของสินค้าอยู่ที่ คนปรุงสูตรต้นตำรับ ควบคุมคุณภาพ ที่เป็นคุณหมอต้อย (พญ.นลินี ไพบูลย์) ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ นะครับ .. อย่าพลาดประเด็นนี้ เอาเถอะ , ผมคิดว่า คุณได้คำตอบแล้วว่า สินค้ากิฟฟารีนนั้นคุ้มค่ากว่า คุณก็เริ่มต้นสั่งซื้อมาใช้ครับ
ยกตัวอย่างเช่น
'สบู่อาบน้ำก่อน' ยี่ห้อในท้องตลาด กับ สบู่เหลวอาบน้ำ Sheabutter Honey Shower Cream (เชียบัตเตอร์ ฮันนี่ ชาวเวอร์ ครีม) ซึ่งผลลัพธ์ที่ผมได้รับ มันสัมผัสได้เลยถึงผิวที่นุ่ม ไม่แห้งกระด้าง และ ผิวสะอาด สดชื่น หลังอาบน้ำ ที่สุดใช้ได้นานกว่ามาก และสุขภาพผิวจากการอาบน้ำ ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
การซื้อใช้ซ้ำ .. คือ ที่มาของรายได้อย่างต่อเนื่อง
กิฟฟารีนมีข้อกำหนดว่า คุณจะได้รับรายได้ทุกเดือน 'เมื่อคุณมียอดซื้อสินค้าที่ซื้อในชื่อของคุณเองอย่างน้อย 1,000 บาทต่อเดือน' 1,000 บาทสำหรับผมนะ ผมซื้อสินค้ากิฟฟารีนใช้ในกลุ่มหนึ่งเป็นประจำนะครับ ยกตัวอย่างเช่น
- ยาสีฟันไบโอ เฮอร์บัลพลัส ขนาด 160 กรัม ราคา 138 บาท (เดิมทีใช้ ยี่ห้อ คอลเกต ราคา 85 บาท)
- โรลออน จีโอ ขนาด 50 มิลลิลิตร ราคา 63 บาท (เดิมทีใช้ ยี่ห้อ Adidas ราคา 85 บาท)
- โฟมล้างหน้า วิส ขนาด 80 กรัม ราคา 120 บาท (เดิมทีใช้ หลายยี่ห้อ ราคา 200 - 500 บาท)
นี่เป็นสินค้า 3 ตัวข้างต้น ที่ผมเปลี่ยนที่ซื้อจากห้าง ฯ มาเป็นซื้อใช้ของกิฟฟารีนทุกเดือน ก็เริ่มต้นรับรายได้จากกิฟฟารีนแล้วครับ
จำนวนรายได้ของฉันหละ จะได้เท่าไหร่กันเชียว
ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่มีทางเสนอแรงจูงใจกับคุณตอนเริ่มต้นว่า เมื่อคุณเป็นสมาชิกกิฟฟารีนแล้ว จะได้รายได้เป็นแสน ๆ มีรถ มีบ้าน เหมือนธุรกิจเครือข่ายอื่น ๆ เพราะอะไรหละ ? ก็เพราะว่า เงินรายได้หลักพันบาทจากกิฟฟารีน คุณสามารถได้รับอย่างต่อเนื่องแค่ภายในไม่กี่เดือนเองครับ แล้วเมื่อคุณเคยได้รับรายได้หลักพันแล้ว มีเหรอครับ ที่คุณจะไม่อยากได้มากเป็นหมื่น และเป็นแสน จริงไหมครับ ? เช่นนั้นแหละ 'คุณที่เคยมีรายได้หลักพันบาทแล้ว' คุณจะมีแรงจูงใจในตัวคุณเอง โดยไม่ต้องมาฟังคำโม้ โอ้อวดของธุรกิจขายตรงอื่น ๆ ที่เห็นกันเกลื่อนในอินเทอร์เน็ต
เพิ่มจำนวนสมาชิกภายใต้ชื่อของคุณด้วยระบบออนไลน์
แล้วฉัน,จะเพิ่มสมาชิกได้ยังไงละ ทำอะไรก็ไม่เป็นเลยซักกะอย่าง โถ! พ่อคุ๊ณ แม่คุ๊ณ ลูกป้า น้า อา ไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่เกิดมาหรอกครับ แล้ว อีกอย่างนึงนะครับ ขอบอก คุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะว่า! ทางทีมงานเรา มีเว็บไซค์ให้คุณ ใช้ขยายธุรกิจ ของคุณเองภายใต้สายงานออนไลน์ (คุณว่าเจ๋งปะ) ผมบอกแล้วว่ามันเจ๋งจริงๆ เพียงแค่คุณสละเวลานิดหน่อย มาศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจในการใช้งาน (ฮันแน่ จะหรอกให้ตรูไปอบรมใช่มั้ย)
หลายๆคนคงคิดแบบนี้ อิอิอิ (ตอนแรกผมก็คิดเหมือนคุณ) แต่คุณลืมไปได้เลยนะครับเพราะทางเรามี ห้องเรียน ห้องอบรมสอนงาน สำหรับทีมงานที่มาใหม่ คุณจะนั้งเรียน นอนเรียน จิบเบียร์ไป หรือทำอื่นๆก็สามารถสอนงานกันได้ (สุดยอดเลยใช่ปะ) หาที่ไหนไม่ได้แล้ว ทีนี้ คุณพอจะนึกภาพออกแล้วใช้ปะว่าควรจะเริ่มยังไง? เออ! ผมลืมบอก ห้องกลุ่มเฟสออนไลน์แยกตามตำแหน่ง (โม้มากไปหน่อย) ซึ่งคุณต้องเป็นสมาชิกก่อนถึงจะสามารถเข้าร่วมสร้างรายได้ได้ สุดท้ายและท้ายสุด ผมมีตัวอย่างเว็บขยายธุรกิจมาให้ชมกัน สามารถเข้าศึกษาก่อนดูได้ครับ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจกับทีมงานเรา
>>> https://www.anattarashop.com/?ref=45059990
